ผลประโยชน์บนความฝัน

อาจจะมีคนหนึ่งคนที่กำลังทำตามฝัน และอาจจะมีหลายคนที่ต่างเข้ามาหาประโยชน์บนความฝันของคนๆนั้น แล้วเราเคยหยุดถามตัวเองไหม ว่าแท้จริงแล้วเรากำลังทำตามฝันด้วยเหตุผลอะไรกันแน่.. เพื่อความต้องการลึกๆส่วนตัวจริงๆ หรือเพื่อหาประโยชน์จากสิ่งนั้น

ช่วงนี้หยุดเขียนบทความไปเกือบเดือน จะบอกว่าไม่อยากเขียนก็ไม่ได้ แต่จะให้บอกว่ามีเรื่องจะเขียนก็คงไม่ได้เหมือนกัน เพราะเป็นช่วงที่งานหลายงานต่างประทังเข้ามาพร้อมกันจนแทบจะไม่มีเวลาให้คิดเรื่องอะไรที่เป็นส่วนตัวเลย

หนังสือของ เดล คาร์เนกี้ เล่มนึงเคยพูดถึงปัญหาในจิตใจอย่างนึงที่ผมจำได้ดีเลยครับ เขาเขียนว่า “ทำตัวเองให้ยุ่งเกินกว่าจะต้องมาคิดเรื่องอะไร” ลองนึกถึงนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยที่หมกมุ่นอยู่กับงานของตัวเองจนลืมวันลืมคืน ทำให้ลืมแม้แต่เรื่องปัญหา ลืมแม้แต่จะมีเวลามานั่งคิดถึงเรื่องเล็กน้อยที่กัดกินความรู้สึก

และความหมกมุ่นในงานนี่เอง ที่ทำให้เรามีเวลามาคิดเรื่องตัวเองน้อยลง พอคิดน้อยลง เรื่องที่อยากจะเอามาเขียนก็แทบจะไม่มีเลย มันเหมือนจะดีที่ได้โฟกัสทำแต่งาน แต่อีกมุมหนึ่งมันก็เหมือนว่าเราไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันเลยด้วยในบางช่วงเวลา

นักเขียนหลายคนกล่าวว่าหากต้องการมีความสุข ให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน แต่ตอนเด็กๆเรามักจะถูกสอนว่าให้ทำอะไรคิดถึงอนาคต รวมไปถึงคลาสเรียนหลายวิชาที่แฝงไว้ด้วยเกร็ดความรู้ ให้ปฏิบัติในวันนี้แล้วคาดหวังผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งลงทุน เก็บหอมรอมริบ รวมไปถึงเรื่องสุขภาพอย่างออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารให้มีประโยชน์อย่างต่อเนื่องก็เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในวันข้างหน้า

จนในบางมุม เราเองก็เริ่มเหน็ดเหนื่อยกับความย้อนแย้งหลายอย่างทั้งสิ่งที่สังคมสร้างขึ้น และสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นในเวลาเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้วเราเริ่มสงสัยว่าเราเองมีความฝันไหม ความฝันวัยเด็กยังมีอยู่ไหม ยังจำได้อยู่ไหม แล้วมันยังเป็นความฝันแบบเดียวกับที่เราต้องการมีตอนนี้หรือเปล่า

แล้วความฝันลึกๆของเราคือ เราต้องการอะไร เราต้องการมีความฝันที่จะอยู่กับปัจจุบัน หรือต้องการมีความฝันที่จะฝากไว้กับอนาคต

ทำไมประสบความสำเร็จเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ได้เท่าไหร่ก็ยังโหยหา แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเติมความต้องการของตัวเองเต็ม? ถ้ามันเป็นสิ่งที่เราต้องการ.. แล้วทำไมความต้องการของเราถึงไม่สิ้นสุด.

หรือว่าจริงๆแล้วความฝันของเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา หรือจริงๆแล้วความฝันของเรานั้นเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมรอบข้าง เปลี่ยนไปตามสิ่งที่เข้ามากระทบแล้วกระตุ้นให้เราต้องการพิสูจน์บางอย่าง หรือเปลี่ยนแปลงไปตามผลประโยชน์ที่ใครหลายคนมองเห็นและต้องการเข้ามามีส่วนร่วมกับความฝันของเรา

ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วความฝันของเรา ยังคงเป็นความฝันของเราอยู่จริงๆหรือเปล่า? หรือความฝันมันเป็นแค่ไม้หักปักเลนเหมือนคำพูด.. ที่ผ่านไปไม่นานก็ลืมๆกันไป

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ