เราทำงานกันไปเพื่ออะไร

เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศ ความพึงพอใจ หรือแค่พิสูจน์อะไรบางอย่าง

ปกติแล้วผมไม่ค่อยได้เข้าห้างช่วงพักกลางวัน แต่วันนั้นเองที่ช่วงเช้าไปทำธุระเสร็จประมาณเที่ยงพอดี เลยแวะไปหาอะไรทานที่ห้างแถวบ้าน ห้างที่ผมไปนั้นเป็นห้างที่มีของกินเยอะ และมีสำนักงานอยู่ระแวกนั้นหลายที่ ช่วงพักกลางวันจึงเป็นอะไรที่วุ่นวายมาก เป็นเวลาที่คนแย่งกันกินแย่งกันใช้ แล้วเผอิญเห็นผู้คนทำอะไรบางอย่างเลยเกิดความคิดนึงขึ้นมาได้

เราทำงานกันไปเพื่ออะไร

เหมือนจะเป็นคำตอบที่ง่ายมาก และบางคนก็แทบจะไม่ต้องคิดเลยด้วยซ้ำ แต่จริงๆ แล้วผมว่ามันมีหลายเหตุผล และบางเหตุผลไม่ใช่คำตอบที่แท้จริงสำหรับคำถามนี้ ถ้าคุยกันแบบไม่โกหกตัวเอง ผมถามตัวเองในใจว่าที่ทำอยู่ทุกวันนี้ทำงานไปเพื่ออะไร เงินหรอ ชื่อเสียงหรือการยอมรับหรือเปล่า หรือเป็นเพราะอยากเติมเต็มบางอย่างที่ตัวเองไม่รู้สึกว่าเคยได้มาก่อน

ในห้างผมเห็นบางคน so proud กับป้ายพนักงานที่ห้อยคออย่างมากจนเป็นที่น่าสังเกตุ จนอดคิดไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วมันมีความรู้สึกอะไรแอบแฝงซ่อนอยู่ในการแสดงออกทางกายภาพของบุคคลหรือเปล่า เป็นไปได้หรือไม่ที่บางคนรู้สึกว่าได้ทำงานบริษัทใหญ่ น่าจะแสดงถึงหน้าที่การงาน ความก้าวหน้าและเงินที่ตัวเองได้รับดีกว่าคนที่ได้ทำงานบริษัทเล็ก หรือไม่มีชื่อเสียงมากนัก

ที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับฟรีแลนซ์ ถึงเป็นเจ้าของกิจการแต่ก็ไม่ได้จ้างพนักงาน หรือมีเวลาทำงานตามแบบแผนของบริษัททั่วไป ผมยังคงคิดถึงการหารายได้มาให้พอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน กังวลเรื่องของอนาคต การหาลูกค้า ความเสี่ยงของเศรษฐกิจ และปัจจัยต่างๆ ที่จะกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทเหมือนวันแรกที่เปิดกิจการ ถึงแม้ว่าตอนนี้บริษัทของตัวเองเดินเข้าสู่ปีที่ 3 แล้วก็ตาม

เราทำงานกันไปทำไม

เพื่อนผมที่ทำงานประจำหลายคนชอบบ่นให้ฟังว่า อยากจะออกมาทำอะไรเอง อยากจะมีบริษัทเป็นของตัวเอง ซึ่งกว่า 90% ของคนพูดทุกวันนี้ก็ยังทำงานบริษัทอยู่เหมือนเดิม แล้วผมก็แย้งทุกครั้งจนขี้เกียจจะแย้งแล้วว่า อย่าเลย ถ้าเลือกได้ ก็ทำงานประจำไปก่อนเถอะ เพราะไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เห็นภาพ หรือสิ่งที่เจ้าของกิจการหลายคนเจอ โดยไม่คิดว่าจะเจอมาก่อนตอนเป็นพนักงานออฟฟิศ

เมื่อคุณขยับตัว มันก็มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นตามมาเสมอ ยิ่งใครที่ทำอะไรเองทุกอย่างเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแบบผมก็จะมีเรื่องให้คิดสารพัด สิ้นเดือนแล้วหาเงินมาจ่ายพอต้นทุนเดือนหน้าหรือยัง ปิดยอดบัญชี ทำเอกสารบัญชี ภาษีส่งสรรพากรแล้วใช่ไหม สัญญาว่าจ้างเขียนแบบนี้จะแฟร์กับลูกค้าและกับเราหรือเปล่า ตามข้อมูลจากลูกค้าได้หรือยัง ไปส่งไปรษณีย์ หรือให้ใช้แมสไปรับเช็ค หรือส่งเอกสารจะดีหรือเปล่า ฯลฯ

หลายคนบอก แล้วทำไมไม่จ้าง จ้างให้คนอื่นทำซะก็จบเรื่อง เอาเวลาไปทำเรื่องที่ตัวเองถนัดอย่างการเขียนโปรแกรม ออกแบบ หรือคุยงานกับลูกค้าไม่ดีกว่าหรือยังไง

อย่างที่บอกครับ ไม่มีอะไรแน่นอน การบริหารความเสี่ยงถือเป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจ ใช้แรงงานตัวเองถือว่าเกิดความเสี่ยงเรื่องอื่นน้อยที่สุด ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่าย และความถูกต้องของงานที่เราอยากให้เกิดขึ้นจริงๆ

แต่ความจริงแล้ว ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องค่าใช้จ่ายหรอก ผมว่าคนเริ่มธุรกิจใหม่ “ด้วยตัวเอง” หลายคนรู้แก่ใจว่าสิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ “คนอื่นที่เราจ้างเนี่ย.. จะทำงาน หรือปฏิบัติต่อลูกค้าของเราได้ดีเท่าเรา หรือที่เราคาดหวังไว้หรือเปล่า” มากกว่า

เมื่อต้นทุนมีจำกัด เวลาและสินทรัพย์มีจำกัด ธรรมชาติของเราจะสร้างสรรค์วิธีการทำงานที่ดีที่สุดภายใต้สถานการณ์นั้นขึ้นมาเอง มันก็เหมือนกับตอนที่คุณทำงานบริษัทใหญ่ มีงบการตลาด 10 ล้าน กับธุรกิจร้านกาแฟที่บ้านมีงบการตลาด 4 พัน ท้ายที่สุดคุณก็ต้องการเป้าหมายเดียวกันคือ ทำยังไงให้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และเข้าถึงผู้บริโภคได้ดีที่สุดตามที่วางแผนเอาไว้

มีตัง 4 พันจะไปสู้คนมีเงินหลายล้านได้ยังไง ก็ต้องคิดวางกลยุทธ์ให้มากขึ้น ทำวิธีการแบบเดิมที่คนมีตังคนอื่นใช้กันไม่ได้หรอก คุณจะเหนื่อยมากขึ้นทั้งร่างกายที่ต้องอดทนฝืนกลั้นทำงานตัวแทบขาด อดหลับอดนอน ไหนจะความเครียดจากการหาช่องทางเพื่อให้ธุรกิจสามารถไปต่อได้ ท้ายที่สุดก็จะได้วิธีการใหม่ วิธีการที่ธุรกิจของคุณเองเท่านั้นเหมาะสมกับแผนกลยุทธ์นี้ ต่อให้คนอื่นมาใช้ตามทำตามก็ไม่ได้ผลดีเท่าที่คุณ

นั่นเพราะคุณคิดมาแล้ว ปรับปรุงมาแล้ว ทดลองมาแล้ว และเหมาะกับธุรกิจของคุณเท่านั้นไง คุณอาจจะมีสูตรส่วนตัวว่าต้องทำแบบนี้ช่วงเวลานี้ เพราะลูกค้าชอบแบบนี้ หรือคุณเองที่สามารถทำงานได้ดีที่สุดในเวลานี้ หรือคุณเองถนัดทางด้านนี้ แล้วสถานการณ์อื่นๆก็อำนวยกับแผนการแบบนี้ที่คุณคิดขึ้นมา

มันก็คือ secret sauce ของคุณนี่แหละ

เหมือนที่เรารู้ว่าถ้าข้าวผัดปูต้องร้านนี้ อาหารทะเลต้องที่นี่ ชานมไข่มุกที่นี่คือดีงามไม่หวานไม่เลี่ยน มันมีรสชาติของมันเป็นเอกลักษณ์ หรืองานที่คุณทำขึ้นมาเหมือนมีตราลายน้ำแปะลงไปในทุกงานที่ส่ง คนหลายคนเห็นปุ๊บรู้ทันทีว่านี่น่าจะเป็นงานของคุณแน่ๆ เพราะที่ผ่านมาคุณสร้างสรรค์ผลงานแบบนี้เป็นลักษณะเฉพาะ และคุณเองก็เก่งด้านนี้

แล้วเราทำงานไปเพื่ออะไรกันวะ

ถ้าไม่โกหกตัวเอง ตอบตัวเองในใจได้ดังๆ ว่าทำเพื่อเงิน เรามาทำงานเพื่อเงินหวังรวยไม่แคร์เรื่องอื่น ผู้ใหญ่หลายคนบอกคุณก็ไปทำงานใกล้เงิน หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับเงินสิ นักกฏหมาย นักลงทุน ฯลฯ อยากทำงานเพื่อชื่อเสียงเกียรติยศ ไปไหนคนรู้จักยกมือไหว้ มีคนเคารพนับถือ ก็ไปทำงานกับคน ให้ใจซื้อใจ ทำเพื่ออุดมการณ์มีหน้ามีตา เป็นนักการเมือง ทหาร ตำรวจ ข้าราชการอะไรก็ว่าไป หรือจะอยากพิสูจน์ตัวเอง แบกรับชะตากรรมในการตัดสินใจของตัวเอง ไม่หวั่นไม่กลัวต้องทำอะไรใหม่ๆ ล้มก็ล้ม ความเหน็ดเหนื่อยแค่นอนพักก็หายไปสู้ใหม่วันข้างหน้า ก็ลองดูเลยกัดฟันออกมาคิดแผนธุรกิจใหม่ทำอะไรเองเป็นชิ้นเป็นอัน

ลองถามผู้ใหญ่ที่เคารพหลายคนดูว่าถ้าย้อนกลับไปได้ อยากจะเลือกเรียนอะไร หรือถ้าตอนนี้ย้อนกลับไปบอกตัวเองเมื่อสัก 20-30 ปีที่แล้วได้จะบอกว่าอะไร อยากได้อำนาจก็ไปอยู่ใกล้อำนาจ อยากได้บารมีก็ทำตัวให้น่าเคารพ อยากได้เงินก็พัฒนาตัวเองให้ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับเงินเยอะๆ มันก็ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว

มันไม่เห็นจำเป็นเลยว่า ถ้าช่วงนี้เห็นสับปะรดราคาดี ก็แห่ไปปลูกสับปะรดกันหมด ช่วงนี้ร้านกาแฟน่าทำเพราะเริ่มง่าย ก็ไปทำร้านกาแฟจะได้ไม่ต้องเหนื่อยอะไรมาก เป็นสิ่งที่ลึกๆ ตัวเองอยากจะเป็นอยากจะทำ รอวันให้ผลที่ทุ่มเทลงไปมันสุกงอมน่าภูมิใจกว่าเยอะ ส่วนทุกวันนี้หรอ..

เสียงคุณจะเริ่มดัง ผู้คนจะเข้าหา เมื่อคุณอยู่ใกล้เงินมากขึ้น ทำเงินได้มากขึ้น คนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจหรอกว่าคุณมีความสามารถแค่ไหน เขาก็สนใจแต่ว่าคุณทำเงินได้ยังไง

การทำงานสำหรับผม ผมว่าเงินมันเป็นสิ่งที่ไม่มี layer ไม่มีสเน่ห์หรือความสวยงามอะไร แต่แน่นอนว่าประกอบธุรกิจทุกวันนี้มีแค่ใจก็ไม่พออยู่ดี การพิสูจน์อะไรบางอย่างอาจจะต้องใช้หลายปัจจัยเป็นส่วนประกอบ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือความรู้ ถ้าจ้างคนอื่นทำ บางอย่างก็อาจจะไม่เคยได้รู้ ถ้าไม่รู้ ก็อาจจะตัดสินใจผิดพลาด ถ้าตัดสินใจผิดพลาด ก็ย่อมเกิดความเสียหาย

ผิดพลาดนั้นเป็นเรื่องที่รับได้ แต่ผิดอย่างไรก็ยังไม่รู้ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่รับได้เช่นเดียวกัน

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ