เป้าหมายบนหน้าผา

ผมเคยได้ยินคนใกล้ตัวพูดขึ้นมาเล่นๆ คำนึงเมื่ออาทิตย์ก่อนว่า “เมื่อไหร่เราจะใช้ชีวิตอย่างเศรษฐีสักที จะได้ไม่ต้องทำงานอะไร กินของอร่อย เที่ยวเล่น ดื่มเหล้า เล่นไพ่ ไปวันๆ” คือบริบทของคำพูดอาจจะไม่ใช่แบบนี้ 100% แต่เป็นในเชิง เมื่อไหร่จะทำงานจนรวยแล้วไม่ต้องทำอีกแล้วประมาณนั้นมากกว่า

จริงๆ ถ้าไม่คิดอะไรมันก็คือคำพูดติดตลกไปเรื่อย และเราก็หัวเราะชอบใจกับมัน

ประเด็นคือถ้าย้อนกลับมาคิดจริงๆ แล้วเนี่ย ชีวิตเศรษฐีมันดี หรือเหมาะกับเราจริงๆ หรือ? วันนึงที่เราทำงานเหน็ดเหนื่อยตรักตรำผ่านอะไรมามากมายในชีวิต แล้วอยู่ดีๆ ก็หยุดไม่ต้องทำอะไร อาจจะมีหลายคนบอกว่าชีวิตนี้เครียดมาเยอะแล้ว พักผ่อนบ้างอะไรทำนองนี้ แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าคนที่เหนื่อยมาตลอด อยู่ดีๆ ให้มาหยุด มันจะไม่กลับไปโหยหาช่วงเวลานั้นได้หรือยังไง

ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่ามันเป็นประสบการณ์ยังไง ได้แต่เห็นคนอื่นที่ผ่านจุดๆ นึงไปได้แล้ว เขาก็ยังหาโน่นหานี่ทำอยู่ ไม่เคยมีใครที่เหนื่อยมาก่อน แล้วไปใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอย่างสุขสบายไม่ต้องทำอะไร ตามประสาชีวิตเศรษฐี ให้ดูเป็นตัวอย่างจริงจังเสียที

เคยรู้สึกแบบนี้กันไหมครับ.. ช่วงที่รู้สึกไม่มีอะไรทำ หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ยุ่ง มันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เราอาจจะส่งงานไปแล้ว หรือผ่านสัปดาห์ทำงานหฤโหดที่ใช้งานร่างกาย และจิตใจอย่างหนักหน่วงติดกันเป็นเวลานาน แล้วตื่นขึ้นมารู้สึกว่าไม่รู้ว่าวันนี้จะต้องทำอะไรดี มันเหมือนช่วงที่รองานใหม่เข้ามา ช่วงวันที่ได้เบรคสั้นๆ มันเหมือนกับเป็นช่วงที่ร่างกาย และสมองยังไม่ชินกับวันว่างๆ เพราะที่ผ่านมามันยุ่งเสียเหลือเกิน

ผมเคยมีช่วงที่งานติดกันหนักหลายอาทิตย์ ทำหลายโปรเจค แล้วก็ติดช่วงก่อนสอบปลายภาคเรียนโทด้วย ในระหว่างช่วงนั้นรู้สึกร่างกายกรอบมาก เหนื่อย ดื่มกาแฟวันละสามแก้ว อัดวิตามินแทบจะทุกเช้าแต่ก็รู้สึกเหมือนไม่ค่อยช่วยอะไรเท่าไหร่ ตอนนั้นก็รู้สึกว่าชีวิตนี่หนักเหลือเกิน แทบจะต้องวางแผนทุกชั่วโมงเลยว่าจะต้องทำอะไร งานไหนทำก่อนได้บ้าง กลายเป็นคนทำอะไรเร็ว เดินเร็ว พูดเร็ว คิดเร็วแต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะรอบคอบ ตื่นมาเช้าความรู้สึกแรกคือรู้เลยว่ามีงานอะไรรออยู่บ้าง วันนี้จะต้องทำอะไรให้เสร็จ

แต่หลังจากช่วงนั้นผ่านไป อาจจะเป็นช่วงที่ส่งงาน หรือรอ feedback จากลูกค้า หรือปิดเทอม ฯลฯ กลับเห็นปฏิทินว่าง ไม่มีนัดต้องออกไปไหน หรือก็ไม่มีงานโปรเจคอะไรให้ทำในเวลานั้น ก็มานั่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนลืมอะไรไปตลอด พะวงว่ามีอะไรต้องทำแต่ก็ไม่มีอะไรให้ทำจริงๆ คือจะทำเหมือนตัวเองมีงาน ทำตัวเหมือนเร่งมีธุระตลอดเวลา แต่เอาเข้าจริงก็ไม่มี

ช่วงที่งานเริ่มเยอะจะรู้สึกเหนื่อยมากๆ แต่รู้สึกถึงความหมายในการทำงาน และมีแรงจูงใจสูงมากตามไปด้วย พอทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย หรือช่วงที่ต้องรอ ความรู้สึกก็เหมือนกำลังดิ่งลงหน้าผามาเลย

ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย มันรู้สึกเหมือนตื่นมาทุกเช้าแล้วพยายามนึกให้ออกว่าวันนี้มีอะไรต้องทำบ้างนะ วันนี้ต้องไปไหน แต่มันไม่มี มันส่งผลกับแรงจูงใจที่จะใช้ชีวิตในวันนั้น แล้วก็พาอารมณ์ตัวเอง down ไปด้วย

ผมเลยไม่รู้ว่าคำว่าใช้ชีวิตอย่างเศรษฐี หรือใช้ชีวิตไปวันๆ ในอนาคตนี้จะเป็นผลดี หรือผลร้ายกับตัวเองมากกว่ากันแน่

หรือสุดท้ายแล้วเราอาจจะแยกไม่ออกว่าอะไรที่เป็นสิ่งที่สำคัญบ้างในแต่ละวันที่เรากำลังใช้ชีวิตอยู่ บางคนอุทิศตัวเองให้กับงานจนบางทีก็หลงลืมไปบ้างว่ามีอะไรที่สำคัญกว่าแผนงานที่เราจะต้องทำข้างหน้า แต่ผมก็ว่ามันไม่ใช่ไม่ดีนะ การงานเป็นสิ่งที่ทำให้เราก้าวหน้า แต่เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าความก้าวหน้านั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงบางอย่างให้แย่ลง หรือหายไปด้วยในเวลาเดียวกัน

มนุษย์เราทำงานได้ดีก็ต่อเมื่อพวกเขารู้ว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร ทำไปทำไม มันสำคัญมากที่คุณได้ตื่นขึ้นมาในทุกเช้าแล้วอยากทำงาน อยากจะสนุกไปกับมัน – Elon Musk

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ