เว็บไซต์ในเวอร์ชั่นที่ 5 ของ JindaTheme
ที่จริงแล้วผมก็ไม่ชอบเขียนอะไรใหม่หลายครั้งหลายคราให้เหนื่อยตัวเองหรอกครับ ไม่ว่าจะงานส่วนตัว หรืองานฟรีแลนซ์ เพราะทุกครั้งที่เขียนอะไรขึ้นมาใหม่ก็จะมีความรู้สึกชอบ, ถูกใจอยู่พักนึง พอนานเข้าก็จะรู้สึกอยากเปลี่ยนอีกเหมือนเคย ยิ่งกับงาน startup ที่ทำอยู่นะ เปลี่ยนแบบ เปลี่ยนเว็บไซต์มาไม่รู้จะเปลี่ยนยังไง สุดท้ายเลยคิดว่า ถ้าผู้ใช้อยากได้อะไร ต้องการอะไร ก็สร้างอันนั้น แล้ว measurement เอาว่า conversion rate เป็นยังไง
ถ้ามันยังดี, ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแม่งแล้ว.. เปลี่ยนมาแล้วใช้ยากขึ้น ผู้ใช้หนี ก็มีถมไป
หลังจากที่ผมจด JindaTheme ให้เป็นห้างหุ้นส่วน กับพี่ที่ร่วมงานกันแล้ว ก็อยากจะทำอะไรให้มันเป็นทางการมากขึ้น มีขั้นตอนที่ถูกต้องกว่ารับงานแบบสมัยก่อน เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ก็จะออกใบสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เริ่มทำ CI ของตัวเอง แล้วก็สร้าง company profile ไว้สำหรับลูกค้าที่ร้องขอเข้ามาก่อนเริ่มงานด้วย ซึ่งล่าสุดเมื่อประมาณต้นอาทิตย์ก็ได้จดหมายยืนยันเลข My Business จาก Google ซึ่งตอนนี้เอง JindaTheme เราก็ได้ badge verified บน Google+ เป็นที่เรียบร้อย
ก็เลยมานั่งคิดว่า ถ้าทำอะไรให้มันเป็นทางการขึ้นมาหน่อยแล้ว ทำไมหน้าเว็บไซต์มันดูไม่ make sence กับหน้าตาของนิติที่จดขึ้นมาเลย แล้วหน้าเว็บไซต์เก่าก็ดูให้ข้อมูลอะไรไม่มาก น่าจะไม่เป็นผลดีกับลูกค้าใหม่ แล้วก็เวลาที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบด้วย เลยตั้งใจจะขึ้นเว็บไซต์ใหม่ที่ให้ข้อมูลเยอะหน่อย แล้วก็ครอบคลุมคำถามที่โดนถามเข้ามาบ่อย
![jindatheme v4](http://www.jir4yu.me/wp-content/uploads/2015/08/jindatheme-v4.jpg)
อย่างที่เห็นคือของเก่า เป็นแค่ลิงค์ง่ายๆ เอาไว้เก็บผลงานให้ลูกค้าประจำที่ต้องการขอดูเป็น reference เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากมายเลยกับหน้าเว็บไซต์เวอร์ชั่นนี้ ข้อดีคือมันเข้าใจง่าย ถ้าใครที่อยากดูผลงานก็คลิกที่ Works, อ่านบทความทั่วไปที่เราเขียนก็คลิก Blog สุดท้ายก็ติดต่อ มันก็ make sense สำหรับ 3 ทางเลือก แต่สำหรับลูกค้าใหม่แล้ว เขาแทบไม่เห็นข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเราเลย เช่น เราทำอะไร, มีผลงานอะไรบ้าง แนะนำอะไรบ้าง แล้วก็จะสอบถามหาข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ยังไง
เลยตั้งใจเขียนเว็บไซต์ใหม่ขึ้นมา โดยตั้งใจว่าจะขับเคลื่อนด้วย WordPress เพื่อแสดงให้เห็นว่า “เออ เรารับงานที่เกี่ยวกับ WordPress นะ อย่างเว็บไซต์หลักเรายังเป็น WordPress เลย” ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นาน เพราะหลังบ้านก็แค่เขียน option ให้เข้ากับระบบของ WordPress มันก็เท่านั้นเอง
![www.jindatheme.com](http://www.jir4yu.me/wp-content/uploads/2015/08/www.jindatheme.com_.jpg)
นอกจากนั้นก็ Optimize บางส่วนเล็กน้อยตั้งแต่เรื่องของ security, seo ไปจนถึงเรื่องของ pagespeed แต่ที่สำคัญที่สุดคือเรื่องของ usability คือถ้าเราทำเว็บไซต์ตัวเองให้ไม่รู้สึกใช้งานง่าย เว็บไซต์ลูกค้าคนอื่นมันจะไปง่ายกว่านี้ได้ยังไง สุดท้ายก็ลองวาด แล้วเขียนออกมาดูซึ่งมันก็ไม่ได้มีอะไรมากเลย แค่แสดงข้อมูลกับผลงานแค่นั้นจริงๆ
แต่ส่วนตัวคิดว่าเพียงพอกับสิ่งที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องการแล้ว
ที่นี้ย้อนกลับไปดู เว็บไซต์แบบที่ผ่านมา
ผ่านมากว่า 2 ปีที่คิดว่า จะตั้งยี่ห้อขึ้นมาขึ้นมาใหม่เพื่อรับงานฟรีแลนซ์ (จากเมื่อก่อนก็รับงานในชื่อ Jir4yu.me ที่เป็นชื่อบล็อกนี้เลย) ผมได้เก็บรูปแบบเว็บไซต์ตั้งแต่เวอร์ชั่นแรก จนถึงเวอร์ชั่นปัจจุบันเอาไว้ด้วย แต่อาจจะมีบางอันที่เชื่อมกับระบบหลังบ้านไม่ได้แล้ว เพราะเผลอดันลบไฟล์หลายๆอย่างไป
คิดไปคิดมาแล้วก็ตลกดี สำหรับใครที่ต้องการว่าจ้างเขียนเว็บไซต์ และโมบายแอพฯ สามารถติดต่อผ่านเว็บไซต์ของ JindaTheme ได้โดยตรงเลยครับ