ค้นหาความหมาย

ผ่านมาอีกปีกับชีวิตวัยทำงาน ปีนี้ทำงานกับคนหลายกลุ่มหลายบริษัท ห้องแชทงอกจะสามสิบห้อง อาจจะเป็นเพราะท่องเที่ยวเริ่มฟื้นจากช่วงโควิด ก็พยายามบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรหนักเท่ากับปีสองปีที่ผ่านมาละ

จริงๆ โควิดอาจมีข้อดีบางอย่าง คือมันทำให้เรามีโอกาสคุยกับคนหลายๆคนมากขึ้น เพราะทุกคนก็ผ่อน ทุกคนก็เจ็บ ทุกคนก็พร้อมจะหาอะไรใหม่ๆ เปิดใจมากขึ้นกว่าก่อน แต่เมื่อเราเป็นฝ่ายขอ เราอาจจะได้เห็นหลายๆมุมจากคนหลายๆคน โดยเฉพาะเมื่อเราขอในนามบริษัท แต่คุยกันในฐานะคนทั่วไปคนหนึ่ง ก็จะได้เห็นการวางตัวหลายๆแบบจากทั้งคนที่น่ารัก และไม่น่ารัก

แต่ก็อย่างว่า มันคงไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมองแต่แง่ลบของสิ่งต่างๆ เมื่อเราเลือกเรียนรู้ได้จากทุกอย่างโดยเฉพาะการเลือกมองเฉพาะด้านดีของสิ่งนั้นๆ

การขอ เป็นการกระทำที่ฝืนตัวเองมากๆ
แต่พอทำไปจนชินมันกลับทำให้เราได้อะไรเยอะเหมือนกัน

การขอเหมือนเหมือนเป็นการเคาะเปิดประตูไปเรื่อยๆ แล้วหลงเข้าไปเรื่อยๆ จนบางทีกลับเจอสิ่งที่ไม่ได้ขอ หนึ่งในนั้นคือการได้เรียนรู้จากชุมชนตัวเล็กที่สุด ไปจนถึงสุดอีกมุมของเจ้าที่ทำทัวร์ศูนย์เหรียญ

การคุยกับคนมากขึ้นโดยเฉพาะสิ่งที่อยู่นอกเหนือความสนใจของตัวเอง บางทีก็เหมือนรู้สึกเสียเวลา แต่บางทีก็เหมือนรู้สึกเกินจินตนาการด้วยในเวลาเดียวกัน สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการขอ คือมันสอนให้เรารู้ว่าเรื่องไหนควรพูด เรื่องไหนควรเงียบ เรื่องไหนไม่ควรยุ่งเกี่ยว เพราะมันอาจทำลายความตั้งใจของคนที่มีใจอยากทำธุรกิจได้ จากแค่ผลประโยชน์ไม่กี่เรื่อง

412808303_7387656921245007_4349415078838510133_n

คำปรึกษา

การที่เราเป็นวัยรุ่น(อาจจะตอนปลาย) บางทีก็ยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ หรือบางครั้งลังเลไม่กล้าตัดสินใจ ก็เลยอยากได้ความเห็นจากคนรอบข้าง หรือจากที่ปรึกษา เลยทำให้เรียนรู้อีกอย่างว่าสิ่งสำคัญของการมีที่ปรึกษาคือไม่ใช่แค่มุมมอง หรือความรู้ แต่เป็นเรื่องของ emotional support ด้วย

ผมเชื่อว่าตอนที่เรายังเป็นวัยรุ่น มีความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง พยายามมีจุดยืนของตัวเอง บางทีมันจะมีอารมณ์แบบ เราจะไม่ทำเรื่องนี้แน่ๆ นี่ไม่ใช่ค่านิยมของเรา ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เสียผลประโยชน์ ซึ่งการกระทำแบบนั้นอาจจะทำให้เราไปไม่รอด

แน่นอนว่าหลายครั้งคนรอบตัวไม่เห็นด้วย แต่ก็ยัง support อยู่ โดยเฉพาะคำว่า “งั้นก็ลำบากไปด้วยกันนี่แหละ” กลับกลายเป็นความรู้สึกดีที่แสนวิเศษ มันเหมือนกับทำให้เรารู้ว่าใครที่ยังอยู่ด้วยในวันที่ลำบาก และทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่ได้แบกอะไรต่ออะไรอยู่คนเดียว

หน้าที่ของงาน

ปีที่ผ่านมาก้ยังทำงานกับคนเดิมๆ ทุกคนเป็นฟรีแลนซ์ และเราเองก็เป็นฟรีแลนซ์สมัยตั้งแต่เรียนอยู่ป.ตรี

สิ่งที่ชัดเจนอย่างนึงคือพอใครสักคนทำงานฟรีแลนซ์เป็นประจำ มีลูกค้ากลับมาจ้างประจำ คุณจะมีมาตรฐานในงานของตัวเองว่าอะไรรับได้ อะไรรับไม่ได้ ถึงท้ายที่สุดแล้วงานที่ทำนั้นได้ไม่คุ้มเสีย แต่งานที่คุณทำก็จะยังมีมาตรฐานไม่เปลี่ยนแปลง มันเป็นเหมือนสิ่งที่เราการันตีให้ลูกค้า และเป็นโอกาสที่เราจะได้ทำงานต่อในอนาคต ก็เหมือนที่เคยเขียนไว้ซ้ำๆทุกปีว่า ความเชื่อใจคือความสม่ำเสมอ เมื่อเวลาผ่านไป

แต่เอาจริงๆ ถ้าท้ายที่สุดแล้วสิ่งนั้นคือหน้าที่
เราก็ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นล่ะ

เราไม่ได้ใช้ชีวิตเพื่อหาความสุข แต่เพื่อค้นหาความหมาย ✊
Man’s Search for Meaning

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ