ครบรอบปีที่ 9 – ทำไมแก่แล้วไม่มีอะไรดี?

ครบรอบปีที่ 9 นี้ หมายถึงคือครบรอบที่เขียนบล็อกนี้ขึ้นมาครับ ถ้าถามว่าวันแรกที่เริ่มเขียนความรู้สึกของตัวเอง หรือสิ่งที่ตัวเองคิดลงเว็บไซต์สื่อประเภทอิเล็กทรอนิกส์เนี่ยคิดไหมว่ามันจะยืนยาวมาถึงตรงนี้ คงบอกเลยว่าไม่

ผมอาจจะคิดเผื่ออนาคตอย่างมากแค่สัก 3-5 ปี เพราะอะไรๆ มันก็เปลี่ยนไปเรื่อยตามช่วงเวลาที่ผ่านเข้ามา มีสิ่งนึงที่ล้มหายตายไปแล้วก็มีสิ่งใหม่เข้ามาทดแทนเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อีกอย่างคือผมเองไม่กล้าคิดถึงอนาคตที่ใกล้ขนาด 10 ปีด้วยซ้ำ.. หรืออาจเป็นเพราะที่ผ่านมาคิดแต่ว่าไม่กล้า ยังไม่ได้ลงมือตั้งเป้าหมายอย่างจริงจังมันเลยเหมือนไม้หักปักเลนที่พร้อมจะล้มได้ทุกเวลา

เป้าหมายยังคงเดิม แต่วิธีการจะแปรเปลี่ยนยังไงก็ได้

เหมือนกับการสร้างบริษัท แล้วตั้งเป้าหมายว่า ultimate goal สุดท้ายของเราคืออยู่ที่ตรงไหน วิธีการดำเนินงานอาจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีผู้คนมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามา กลยุทธ์ดีบ้างแย่บ้าง แต่สุดท้ายมันมีทิศทางหันหัวไปที่เดียวคือจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ ช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งหมดร่วม 9 ปีมีสิ่งนึงที่ผมว่ามันเป็นตัววัดความสำเร็จในการเดินทางไปถึงเป้าหมายได้ชัดเจนเลยคือ ความสม่ำเสมอ

ทำออกมาดีหรือไม่ดีไม่รู้ แต่ทำอยู่เรื่อยๆ มีการปรับปรุงพัฒนา โดนด่าบ้างโดนว่าบ้าง มีช่วงที่ดีได้รับคำชมบ้างเป็นธรรมดา แต่สิ่งหนึ่งคิดว่ามันทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ คือความสม่ำเสมอ หากหยุดแล้วความพยายามที่ผ่านมาก็เหมือนไร้ประโยชน์ จะเดินต่อไปข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึง แต่ก็ยังเดินอยู่เรื่อยๆ

มันเหมือนกับเด็กตั้งคำถามว่า ป้าคนนี้ไปวัดทุกวันทำบุญใส่บาตร แต่ทำไมแกไม่เห็นอยู่ดีขึ้นเลย โรคภัยไข้เจ็บก็มีมารบกวนเหมือนเดิม ป้าทำสม่ำเสมอแบบนี้ไปเพื่ออะไรในเมื่อผลลัพธ์ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง

cwn

แต่ทุกคนรู้

คนในระแวกนั้นรู้ พระท่านรู้ ตัวป้าแกเองก็รู้ว่าทุกเช้าจะมีคนไปรอใส่บาตรทำบุญ เราชื่นชมในความสม่ำเสมอไม่ย่อท้อแม้จะเกิดอะไรขึ้นหรือแม้ไม่ได้อะไรกลับมาเลยก็ตาม

ความสม่ำเสมอคือต้นแบบ

คนที่ทำงานหนักอย่างสม่ำเสมอ ไปก็เช้ากว่า กลับก็เย็นกว่า หัวหน้าที่เอาการเอางานทำงานอย่างเสมอต้นเสมอปลายมักเป็นต้นแบบให้ลูกน้องชื่นชมเคารพและมักได้ใจที่จะทำตาม ผู้ผดุงความถูกต้องยึดมั่นในหลักการณ์ ความถูกต้องมาเป็นอันดับแรกมากกว่าผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับพวกพ้องและส่วนตน ย่อมได้ใจคนทำงาน น่ายกย่องเคารพนับถือ ไม่ต่างอะไรกับพระที่มีกิจวัตรประจำวันงดงาม ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด รักษาศีลและทำนุบำรุงศาสนา ชาวบ้านก็ต่างศรัทธาในความดีงาม

ความสม่ำเสมอนั้นแน่นอน คาดหวังได้

“ไม่คาดหวัง ก็ไม่ผิดหวัง” มันก็ยังคงจริงอยู่ยังวันยังค่ำ แต่มันคงจะดีสำหรับคนที่หิวข้าวอยากหาอะไรกินตอนก่อนเช้า และรู้ว่าหวังพึ่งร้านโจ๊กที่เปิดตีห้าทุกเช้าได้ มันคงจะดีสำหรับลูกค้าที่รู้แน่นอนว่าถ้าจ้างเจ้านี้แล้วจะได้งานที่เนี๊ยบเสร็จก่อนเวลาทุกครั้ง มันคงจะดีสำหรับคนที่รอคอยอะไรก็ตาม แล้วรู้ว่าสิ่งนั้นจะมาตามนัดเสมอ

ยังไงก็คงดีกว่าบางทีตั้งใจจะไปทานกาแฟร้านมีชื่อร้านนึง อ่าวร้านปิด วันปิดวันเปิดตามใจเจ้าของร้าน อยากเปิดวันไหนก็เปิด อยากขายวันไหนก็ขายเพราะเป็นเจ้าของกิจการจะทำงานวันไหนก็ได้ อืม.. บางทีเขาอาจจะอยู่ตัวไม่เดือดร้อนอะไร

แก่แล้วไม่มีอะไรดี

มักจะเป็นคำพูดติดตลกเสียมากกว่าในหลายๆบริบท แต่ถ้าย้อนกลับมาดูและตั้งคำถามกันจริงจัง ผมว่ามันเป็นความรู้สึกที่เจ็บปวดพอสมควร ลองคิดดูว่าวันนึงเราแก่ตัวลง ทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถสอนหรือให้ความรู้ลูกหลานในเรื่องใดๆได้เลย ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราไม่ได้ช่วยให้เราสามารถอยู่ในโลกปัจจุบันได้ หรือแม้กระทั่งสอนคนรุ่นใหม่ได้แม้แต่น้อย มันก็คงจะแก่แล้วไม่มีอะไรดีจริงนั่นแหละ

แต่ถามจริงว่า เราจะแก่แล้วไม่มีอะไรดีแบบที่คิดนั้นได้จริงไหม.. ก็ไม่แน่ แต่มันเป็นสิ่งที่เราสามารถวางแผนได้ตั้งแต่วันนี้ถึงในอนาคตและค่อนข้างชัดเจนกว่าตั้งความฝันที่จะเขียนบล็อกไปอีกเป็นสิบๆปีอย่างแน่นอน

ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่จบโท ตั้งบริษัทใหม่ กินมังสวิรัติ เข้าวัดบ่อยขึ้นมาก สนใจเรื่องประวัติศาสตร์และการทำงานของสมอง เริ่มออกไปหาข้อมูลดูนั่นดูนี่เพื่อตั้งคำถามมากขึ้นทุกครั้งที่ว่างจากงาน พอเรียนจบออกมาก็เริ่มรู้สึกว่าง อยากจะหาอะไรทำเพื่อทดแทนเวลาที่หายไป เริ่มไม่อยากดื่ม ไม่อยากไปนั่งสังสรรค์ที่ไหน นอนเร็วตื่นเช้า จนหลายคนเริ่มบอกว่าใช้ชีวิตแบบคนแก่

เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้หมายความว่าการใช้ชีวิตดูแลตัวเองดีขึ้น จะหมายถึงการไม่เจ็บไข้ได้ป่วย มันก็แค่เป็นโอกาสเพิ่มขึ้นมาหน่อยที่จะทำให้ % การเจ็บป่วยน้อยลง แต่มันสอนให้เรามองอะไรหลายอย่างในมุมที่เปลี่ยนไป อย่างการไม่เกิดความทรมานใดๆในช่วงการเปลี่ยนผ่าน หรือการไม่ต้องบังคับให้ตัวเองทำอะไรอย่างเคร่งครัดนั้น อาจช่วยกระตุ้นให้เกิดความสม่ำเสมอมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ก็ต้องมาดูกันว่ามันจะไปได้สักแค่ไหน

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ