เริ่มใช้ voice command ควบคุมสวิตซ์ และปลั๊กไฟบ้าน
เมื่อช่วงต้นเดือนก่อนผมได้รับ Google Home Mini มาจากพี่ที่ทำงานด้วยกัน ซึ่งเขาเองก็ฝากซื้อมากับเพื่อนอีกคนที่ไปเที่ยวอเมริกามา ความจริงถ้าเป็นตัวเองก็ไม่คิดจะซื้อมันมาใช้หรอกครับ ด้วยความที่สำเนียงในการพูดภาษาอังกฤษก็งูๆ ปลาๆ กลัวว่าเอามาใช้แล้ว เวลาพูดอะไรออกไปมันจะไม่ทำงานตามที่ออกเสียง แต่ในเมื่อมีคนสั่งซื้อมาให้ ก็ถือว่าลองไปไม่ขาดทุน ซึ่งเจ้าตัว Google Home Mini เองนั้นก็จะทำงานผ่านการสั่งด้วยเสียงเป็นหลัก โดยความสามารถที่มันทำได้พื้นฐานก็ได้แค่
- เล่นเพลงจาก Spotify
- ถามสภาพอากาศ, การเดินทาง, ตารางการนัดหมาย
- สถานที่รอบๆ
- ควบคุมอุปกรณ์ iOT ต่างๆ ผ่าน supplier ที่มีหลายต่อหลายเจ้า
- ฯลฯ สามารถหาข้อมูลได้ที่ Control Google Home by voice
แน่นอนว่ามันคงจะมีหลายอย่างให้เล่นด้วย โดยหลักๆ ผมมองว่ามันทำหน้าที่เหมือนเป็นผู้ช่วยในชีวิตประจำวันมากกว่า(แต่จริงๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายเท่าไหร่ ในความรู้สึกส่วนตัว) หลักจากลองใช้มาร่วมเดือน สิ่งที่ผมมักจะคุย หรือถามด้วยบ่อยๆ คือสภาพอากาศ, การจราจร ฟังตารางนัดหมาย และ ตั้งนาฬิกาปลุก คือวันนึงอาจจะใช้ถามประมาณ 4-5 ครั้ง ซึ่งเอาเข้าจริงมันก็สะดวกดี เพราะสิ่งพวกนี้คือสิ่งเล็กน้อยที่ไม่คิดจะทำบนคอม หรือเปิดแอพฯ เพื่อดูอยู่แล้ว แต่พอมันมาเป็นเสียง มันกลับรู้สึกว่าไม่ต้องเสียเวลาเปิดเข้าไปหา แค่พูดลอยๆ ออกไปแล้วก็ฟังสิ่งที่มันพูดกลับมาแค่นั้น
ถามว่าใช้มันคุ้มค่ามั้ย ก็อาจจะตอบว่าไม่ แต่ถ้าถามว่ามันให้ productivity หรือช่วยเรื่อง planning ในชีวิตประจำวันได้ดีขึ้นมั้ย ก็พอตอบเลยว่าช่วยได้ ประเด็นที่จะเขียนถึงเลยคือการที่มันรองรับการใช้งานควบคุมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ผ่านเสียงด้วย ซึ่งเข้าไปดูสักพักก็เห็นว่ามันมีหลายยี่ห้อที่เข้ากันได้ เลยลองเข้าไปหาสินค้าบ้านๆ อย่างเช่นพวกปลั๊ก หรือสวิตซ์ไฟแบบราคาไม่แพงมาก รองรับไวไฟ และมีฟังก์ชั่นทำงานร่วมกับ Google Home ได้
จนไปได้ปลั๊กไฟ กับสวิตซ์มาอย่างละอัน ตกอันละประมาณ 200-300 บาท(สั่งซื้อมาจาก AliExpress) คุณภาพก็ดูโอเคตามราคา แต่ละตัวรองรับการใช้งานไวไฟ มี hard switch ที่สามารถใช้มือเปิด-ปิดเองได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ app หรือเสียงควบคุมอย่างเดียว
จริงๆ เรื่องที่อยากจะพูดถึงอีกเรื่องเลยคือเรื่องของความปลอดภัย
อุปกรณ์ IoT ทั้งหลายที่เชื่อมต่อไวไฟภายในบ้าน แท้จริงแล้วมันก็สื่อสารกันเองกันอยู่ในวงไวไฟเดียวกัน ถ้าเกิดวันดีคืนดีมีคนแฮก network หรือเข้ามาจอยไวไฟ แล้วทริกเกอร์ควบคุมอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเหล่านี้ก็คงจะฟังดูน่ากลัวไม่น้อย นี่ขนาดแค่เป็นปลั๊กไฟกับสวิตซ์ แล้วถ้าในอนาคตสามารถควบคุมเครื่องทำน้ำอุ่น เปิด-ปิดน้ำ หรือเตาแก๊สนี่ไม่น่ากลัวมากกว่านี้เลยรึ
Sonoff ยี่ห้อที่ซื้อมานี่มีคู่มือแถมมาให้ด้วยครับ เป็นคู่มือสองภาษาคือ อังกฤษ และจีน สำหรับใครที่ไม่มี Google Home ไว้สั่งการด้วยเสียงก็สามารถโหลดแอพฯ ของมันเองมาติดตั้งแล้วควบคุมระยะไกลผ่านแอพฯ บนมือถือได้เหมือนกัน สำหรับปลั๊กไฟก็อาจจะติดตั้งง่ายหน่อย แค่เสียบกับเต้าที่มีไฟทิ้งไว้ แล้วเสียบอุปกรณ์ใช้ไฟที่ต้องการควบคุมระยะไกลเข้าไป ส่วนสวิซต์ไฟก็อาจจะต้องใช้ความรู้ และความระมัดระวังในการเปลี่ยนปลั๊กไฟนิดหน่อย อาจจะจ้างช่างไฟ หรือคนที่รู้เรื่องไฟฟ้ามาทำการต่อให้ก็สามารถใช้งาน และควบคุมได้แล้ว
หลังจากที่ลองใช้เสียงควบคุมมาครบอาทิตย์ ก็รู้สึกว่าสะดวกขึ้น บางทีลืมปิดปลั๊กโต๊ะทำงานแล้วออกจากบ้านตอนบ่าย กลับมาอีกทีดึกๆดื่นๆก็เข้าแอพฯ ไปควบคุมระหว่างวันได้ หรือตอนเช้าปิดนาฬิกาปลุก ตะโกนบอกให้เปิดไฟ หรือใช้หาหูฟังบนที่นอนตอนกลางคืนโดยไม่ต้องลุกเดินไปก็สะดวกดี เอาล่ะ..จริงอยู่มันอาจจะทำให้ดูเหมือนว่าเราขี้เกียจมากขึ้น แต่ถ้ามองเรื่องการใช้งานพื้นฐานแล้ว ผมกลับมองว่ามันช่วยในเรื่องของ multi-tasking ให้เราโฟกัสไปที่สิ่งที่ต้องทำแทนที่จะใช้เวลากับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จิปาถะได้พอสมควร
