ปีที่ 7 เลขดี แต่ทำไมตอนนี้ชีวิตเหนื่อยจัง

เขียนบล็อกที่เว็บนี้มา 7 ปี มันถือว่านานมั้ย?

เป็นประจำทุกปีเมื่อใกล้จะถึงวันเกิดของตัวเองก็จะต้องมานั่งเขียนบล็อกว่ามันครบรอบกี่ปีๆ แล้ว แต่ปีนี้เขียนช้ากว่าใน 7 ปีที่เคยทำบล็อกมา ย้อนกลับไปอ่านของปีที่ 6 ในบทความ ผ่านมา 6 ปี กับชีวิตบล็อกเกอร์ ก่อนนั่งเขียนบทความนี้เพื่อทบทวนว่าตัวเองพูดถึงเรื่องอะไรบ้างในปีที่แล้ว เผื่อจะนำมาใช้อ้างอิงกับปีถัดๆ ไปได้ด้วย แต่พอกลับไปอ่าน ก็รู้สึกว่าปีที่ผ่านมาธรรมดาไปเลยเมื่อเทียบกับวันนี้ที่นั่งเขียนบทความอยู่

อย่างปีที่แล้วเขียนถึงเรื่องผ่านการบวช เริ่มต้นวิ่ง ทำไมเรื่องพวกนี้มันพื้นๆ จัง ไม่เหมือนที่เจออยู่ในทุกวันนี้เลย

ปีนี้ที่มาเขียนช้ากว่าเดิมเกือบๆ ร่วมอาทิตย์เป็นเพราะมันหาเวลามานั่งเขียนยากมาก พอจะเริ่มเขียนทีนึงก็จะรู้สึกว่า เอาเวลาที่ใช้นั่งเขียนบล็อกแต่ละบทความไปนั่งทำงานจะดีกว่าไหม ประกอบกับช่วงต้นปีมานี้พักผ่อนน้อย ใช้ร่างกายมาก จนคนรอบข้างเริ่มทักเข้าทีละคนว่าหน้าตาดูไม่ดีเลย ไปทำอะไรมา แรกๆ ก็ไม่ได้สนใจคิดว่าเขาคิดไปเอง แต่พอมันบ่อยขึ้น คนทักเยอะขึ้น ก็เริ่มสงสัยว่าความเหนื่อยล้ามันออกมาทางสีหน้าท่าทางได้ขนาดนั้นเลยหรือ

หลังจากปีที่ผ่านมาตัดสินใจเริ่มเรียนต่อโท พร้อมกับทำงานไปด้วย ด้วยความที่คิด และได้ยินมาว่ามันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรมาก คนส่วนใหญ่ที่เรียนก็ทนได้ ปีสองปีมันผ่านไปไว อดทนนิดหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไป จนมาเริ่มเจอกับตัวเองก็เลยรับรู้ได้ทันทีเลยว่า เหนื่อยอะเหนื่อยจริง แต่ไม่คิดว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้ใน สำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานทุกวันไม่มีวันหยุด ทั้ง meeting, coding รวมไปถึงงานเอกสารของบริษัท พร้อมกับเรียนโทวันธรรมดาช่วงเย็นเอาเข้าจริงเป็นอะไรที่เหนื่อยทรมานพอสมควร

7th-anniversary

แต่ถ้าถามว่าเสียใจมั้ยที่เลือกมาเรียน ก็ตอบแบบไม่ต้องคิดทันทีเลยว่า “ไม่”

บางทีก็มานั่งคิดดู อยากจะใช้เวลามากกว่า 60% ของวันๆ ที่มีอยู่ทุ่มให้กับการเรียนมากกว่าทำงานด้วยซ้ำ คือบางครั้งมันเจ็บปวด เจ็บปวดกับการที่ต้องบริหารจัดการเวลาอย่างตรงไปตรงมา หวงแหนมันอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

แต่กลับรู้สึกว่าอยากเรียน อยากไปได้อะไรใหม่ๆ พบเจออะไรใหม่ๆ ไปเจอคนที่ต้องอดตาหลับขับตานอนกัดฟันอดทนสู้เรียนพร้อมกับทำงานเหมือนกัน ทุกครั้งที่ไปจะรู้สึกว่า เห้ย จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้เหนื่อยอยู่คนเดียวนะ มีเพื่อนพี่น้องพวกนี้ที่ยังอยู่ในอารมณ์นี้เหมือนกัน แล้วเขาก็ยังทำกันได้ มันทำให้รู้สึกกลับมีกำลังใจที่จะไปเรียน ไปทำงานกลุ่ม ถึงแม้มันจะเหนื่อย เรียนค่ำเลิกดึก อยู่ทำงานต่อกันถึงเที่ยงคืนตีหนึ่ง ฯลฯ

ช่วงต้นปีที่ผ่านมางานที่ถือก็เยอะขึ้น เรียนก็เริ่มหนักขึ้น ทั้งงานกลุ่มก็ต้องทำ งานที่บริษัทก็ต้องรับผิดชอบ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะใช้เวลาได้คุ้มค่าในแต่ละวันขนาดนี้มาก่อน บางทีก็รู้สึกแย่ เหมือนจะไม่ไหวแล้ว แต่ก็นอนหลับตื่นมาเข้า loop นี้อยู่เรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าบางครั้งตัวเองจะต้องใช้อะไรในการ maintain ความรู้สึกดีๆ ให้ยังยันความรู้สึกแย่ๆ อยู่ได้บ้าง อาจจะเป็นเพราะเพื่อนที่เรียน ความอยากในงานที่ยังมี หรือความรักในบริษัทที่สร้างมันขึ้นมากับมือ กลับถึงบ้านตีหนึ่งตีสอง ตื่นเช้าแปดเก้าโมง อยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ถึงปีที่ 8 ที่นั่งเขียนบล็อกอยู่ จะเขียนเรื่องอะไร แล้วมีความรู้สึกแบบไหนในตอนนั้น

เมื่อความรู้สึกมันเหมือน conflict กันอยู่ตลอดเวลา

บางทีก็อยากจะให้ช่วงชีวิตนี้ผ่านไปไวๆ ผ่านความเหน็ดเหนื่อยไปเร็วๆ แต่บางทีก็อยากจะ keep ความรู้สึกนี้ที่ได้เจอให้จดจำให้ได้นานๆในเวลาเดียวกัน ก็มาลองกันดู.. เรื่องที่เจอนี้มันจะสักแค่ไหนกันเชียว

. . .

เบื่อวันจันทร์ที่ต้องออกไปมีทติ้งหลายๆที่
พร้อมกับต้องหาเวลาแทรกช่วงละนิดช่วงละหน่อยมานั่งเขียนโค้ดให้งานในมือยังเดินต่อได้

ดึกดื่นข่มตานอนทั้งๆ ที่งานก็ยังเขียนไม่เสร็จ
ตื่นเช้ามาพร้อมกับ todolist ที่ยาวเป็นหางว่าว

บางทีก็คิดว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้โตขึ้นอะไรเลย
แค่รู้มากขึ้นว่าต้องแสดงออกยังไงต่อหน้าสังคมแค่นั้น.

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ