เรียน MBA มันได้อะไร?

เมื่อโปรแกรมเมอร์เลือกเรียนต่อ MBA

ตอนที่มีความคิดอยากจะเรียนต่อก็อีกเรื่องนึง ซึ่งจริงๆ เรื่องจะเรียนหรือไม่เรียนมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาให้เก็บมาคิดอะไรมากมายเท่าไหร่หรอกครับ แต่ที่ทำให้คิดแล้วคิดอีกนั่นคือจะเลือกเรียนต่ออะไรดี จะเน้นไปทางสายวิทย์คอมเขียนโปรแกรม รู้พวกทักษะไอทีต่อ หรือว่าจะเลือกเปลี่ยนมาทางสายบริหารดี กว่าจะตัดสินใจได้ก็เป็นช่วงสองสามวันสุดท้ายก่อนส่งใบสมัคร ครั้นเริ่มเรียนมา 1-2 สัปดาห์แล้วก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจกับสิ่งที่ตัดสินใจไปอยู่ดี

ผมจบสายไอที(วิทยาการคอม) มาตอนป.ตรี ซึ่งงานที่ถืออยู่ทุกวันนี้ก็เกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์ เขียนโปรแกรมทั้งนั้น พอตอนอยากจะเรียนต่อก็คิดในทีแรกว่าจะเรียนคอม เอาความรู้ด้านนี้ลึกๆ ไปเลย จะได้เข้ากับทักษะที่ต้องใช้ทำงานในทุกๆวัน ประกอบกับทุกวันนี้เรื่องของ big data, machine learning หรือแม้แต่ AI เองที่กำลังจะบูมในธุรกิจต่างๆ ก็ต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีพวกนี้ทั้งนั้น ฉะนั้นการเลือกเรียนคอมต่อก็อาจจะต่อยอดความรู้ที่มี ประกอบกับใช้เป็นทรัพยากรที่หลายๆ ธุรกิจต้องการในอนาคตได้

แต่อีกความคิดนึงก็อยากจะเลือกเรียนการจัดการ การบริหารธุรกิจด้วย เพราะตัวเองก็เริ่มสร้างธุรกิจใหม่ คิดว่าถ้าไม่รู้พวกปัจจัยพื้นฐานอย่างบัญชี การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ หรือความรู้พื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ การลงทุน รวมไปถึงข่าวสารรอบโลกในแต่ละวันก็อาจจะสร้างธุรกิจไม่ได้ หรือสร้างไปแล้วก็อาจจะไม่โต เพราะไม่มีความรู้ความสามารถในเชิงบริหาร มันเลยเหมือนเป็นสองแง่สองง่ามทางความคิดอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ก่อนสมัครเรียนไปจนถึงเรียนในอาทิตย์แรกๆ ว่าที่ตัดสินใจมานี้มันถูกหรือเปล่า

เรียนคอมต่ออาจจะส่งผลดีกับตัวเอง แต่ถ้าเรียนบริหารอาจจะส่งผลดีกับธุรกิจ

MBA

ลูกค้าที่ผมทำงานให้อยู่เป็นเจ้าหลักก็ยังสนับสนุนให้เรียนคอมต่อ เพราะไหนๆ ก็มาทางนี้แล้วจะได้ต่อยอดความรู้ลึกเข้าไป บ้างก็บอกว่า MBA มันเรียนไปแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก(ส่วนใหญ่ลูกค้าผมจบบริหาร, เศรษฐศาสตร์ตอนป.ตรี) มันเป็นสิ่งที่ในอนาคตสามารถเรียนรู้ได้เอง ซึ่งไม่เหมือนกับคอมที่ต้องใช้ความสนใจเฉพาะด้าน.. ก็ฟังดูมีเหตุผลดี

แต่หลังจากที่เรียนผ่านเทอมแรกไปแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองรู้อะไรขึ้นเยอะมาก นำหลายสิ่งหลายอย่างไปใช้ในชีวิตจริงในการตัดสินใจได้ อีกทั้งยังคุยกับใครหลายๆ คนที่เมื่อก่อนได้ฟังแล้วก็ไม่รู้เรื่องเลยได้ มันทำให้เราเปลี่ยนความคิดเรื่องการมองภาพเชิงเทคโนโลยีมุมเดียวในการตัดสินใจ หรือสื่อสารออกเป็นมุมย่อยๆ สามารถพูดในมุมของลูกค้า หรือมุมของผู้ประกอบการได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ไม่ได้เพ่งไปถึงปัญหาในเชิงเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว

จนบางทีก็นึกย้อนกลับไปถึงตอนที่ตัวเองยังเป็นเด็ก มีวุฒิภาวะไม่มากพอ ไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หลักผู้ใหญ่ถึงตัดสินใจไปแบบนั้น

หลายคนอาจจะมองว่าเรียน MBA อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก มันก็เหมือนกับเรียนเรื่องการจัดการ การตัดสินใจเชิงผู้บริหาร แต่สำหรับคนที่มาทางสายเฉพาะด้านอย่างวิศวกร หรือวิทยาการคอมแล้ว การเลือกมาเรียน MBA มันช่วยอะไรหลายๆ อย่างเยอะมาก อย่างน้อยก็มีความคิดที่จะใช้ในการตัดสินใจในอีกมุมมองนึง ที่ไม่ใช่แค่ใช้ความรู้ความสามารถเชิงเทคนิคที่ร่ำเรียนมาในการตัดสินใจ มันอาจจะทำให้เราสามารถตัดสินใจมีมิติมากขึ้น จนบางทีก็แอบสงสัยว่ามันอาจจะเปลี่ยนแปลงพื้นเพในการแสดงออกทางบุคลิกไปด้วยก็ได้ในเวลาเดียวกัน

จากโปรแกรมเมอร์ที่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบคุย ไม่ค่อยชอบพูด ก็อาจจะแสดงออกมากขึ้น มีความคิดเห็นในมุมกว้างมากขึ้น มีส่วนร่วมทางมนุษยสัมพันธ์มากขึ้นกว่าที่เคยมีอยู่ แค่นี้ก็รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ได้เรียนแล้ว

– อัพเดทเพิ่มเติมวันที่ 8 ม.ค. 61

ผมไปเจอคลิปนึงที่ รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ พูดถึงเรื่องการเรียนต่อ MBA ได้อย่างน่าสนใจแล้วก็น่าฟังมากๆ ครับ โดยปรกติแล้วแกจะเป็นคนที่เล่าเรื่องสนุก ผมได้มีโอกาสเรียนกับแกด้วยตอนเทอมแรกรู้สึกว่าอาจารย์แกสอนเข้าใจ แล้วก็มีเรื่องประสบการณ์ที่เคยผ่านมา มาเล่าให้นักศึกษาฟังอยู่บ่อยๆ ผมคิดว่าครึ่งช.ม. ที่อาจารย์ขึ้นไปพูดบนเวที MBA Forum เนี่ยทำให้คนเห็นภาพของการมาเรียน MBA ได้เยอะ ขอแปะลิงค์ด้านล่างนี้ครับ

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ