Moving to DigitalOcean

ย้ายบ้านใหม่สู่ Singapore DataCenter

เข้าเดือนกุมภาเมื่อไหร่ก็จะเป็นช่วงที่จะต้องต่อทั้งโดเมนกับโฮสต์ใหม่ เรื่องโดเมนนี่ไม่น่ามีปัญหาอยู่แล้วเพราะต่อกับที่เดิมมา 3 ปี ถึงแม้ราคาค่ายืดเวลาออกไปอีกปีจะค่อนข้างแพงกว่าโดเมนดอทอื่นๆ ทั่วไป แต่ก็พอทำใจได้กับการจ่ายปีละครั้งแล้วได้ชื่อโดเมน .me ตามที่ตั้งใจไว้แต่ตอนแรก จำได้ว่าปีแรกได้โปรโมชั่นจดที่ name.com ราคา 9$ เห็นจะได้ แต่ปีถัดๆ มากลับเสีย 18$ กว่า นี่ก็ตกใจเอาเรื่องเหมือนกัน

โดเมนไม่เคยน่าห่วงเท่าไหร่ เพราะมันเอาไว้แค่ชี้ไปโน่นนี่นั่น แต่สิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษกลับตกไปอยู่ที่โฮสต์แทน เดิมที่ Jir4yu.me นั้นฝากไว้กับ Hostneverdie ซึ่งเป็นโฮสต์ในประเทศที่ค่อนข้างเสถียร และ เร็ว ผมย้ายมาอยู่กับ Hostneverdie ตั้งแต่ปีแรกที่เขียนบล็อก ซึ่งนี่ก็ใช้งานต่อเวลามาเข้าปีที่ 3 แล้ว ก็ถือว่าค่อนข้างพอใจในระดับหนึ่ง แต่ช่วงหลังๆ มานี่เองที่อยากจะขยับขยายไปลองทำอย่างอื่นที่มากกว่า Shared-host ธรรมดาให้ได้ บวกกับช่วงเวลาหนึ่งที่ได้รู้จักกับ DigitalOcean ซึ่งถือได้ว่าเป็นที่ฝากเว็บบ้านใหม่ของผมในเวลาถัดมา

DigitalOcean Pricing
ตารางเปรียบเทียบราคาแพคเกจของ DigitalOcean

DigitalOcean โฆษณาตัวเองว่าเป็น Simple cloud hosting ที่ใช้ SSD เป็นที่เก็บข้อมูล ซึ่งต่างจากที่เก่าของผมที่ใช้ HDD ซึ่งแน่นอนว่าความเร็วฝั่ง SSD น่าจะได้เปรียบกว่าในจุดๆ หนึ่ง อีกอย่างคือมีราคาที่สามารถจับจ่ายทดสอบใช้งานสักเดือนนึงก่อนได้ โดยการคิดราคาของ DigitalOcean นี้เองก็ถือว่าแฟร์กับผู้ใช้งานด้วย คือ ถ้าใช้งานเท่าไหร่ก็หักไปตามนั้น ยกตัวอย่างของผมใช้ packge ต่ำสุดซึ่งกินไปประมาณ 0.007$ ต่อชั่วโมงซึ่งนับว่าค่อนข้างถูกมาก และ ถ้าไม่อยากจะให้เงินลดก็สามารถปิด droplet นั้นไว้ก่อนได้ด้วย

droplet upgrade

เมื่อผมลองเติมเงินขั้นต่ำเข้าไป 5$ เพื่อทดสอบก็พบว่าเราสามารถสร้าง droplet ได้ ซึ่ง droplet ในที่นี้เหมือนกับประมาณว่า เป็น server หนึ่งลูกของเราซึ่งมี ip เป็นของตัวเอง สามารถปรับแพลนเลือกขนาดของ droplet ได้ และ เลือกตำแหน่งของ data center ที่ server ลูกนั้นจะใช้งานได้ด้วย

DigitalOcean เตรียมระบบปฏิบัติการที่เป็น Linux OS ไว้ให้เรา ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถข้ามขั้นตอนการ setup ลง OS ไปได้เลยผ่าน Image ที่มีให้เลือกใช้งานไม่ว่าจะเป็น Ubuntu, CentOS, Debian, Arch Linux และ Fedora อีกทั้งยังสามารถเลือกเวอร์ชั่นที่ต้องการลงได้ตาม Image ที่มีให้ด้วยเช่นกัน

DigitalOcean Image
ตัวอย่างของผมเลือกเป็น Ubuntu 12.04

เมื่อ Create droplet แล้ว ระบบจะส่งเมล์มาเพื่อบอกรายละเอียดการเข้าไปใช้งาน ซึ่งจะประกอบไปด้วยหมายเลข ip ของ droplet ที่เราสร้างขึ้น และ username, password ของ root ซึ่งวิธีการเข้าไปใช้งานต่างๆ ก็จะทำผ่าน command line เสียเป็นส่วนใหญ่ ตอนแรกผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่อง command line พวกนี้มากนัก แต่พอเข้าไปอ่านคู่มือการติดตั้ง, ใช้งานที่ Help & Community ของ DigitalOcean เองก็ช่วยได้เยอะ เพราะมีบทความสอนมากมายเกี่ยวกับหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ Basic การ point domain มายัง DNS ของ DigitalOcean จนไปถึงระดับการ optimize server ให้ปลอดภัย และ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

DigitalOcean Online Community
ผมเองก็ศึกษาวิธีการ setup server กับลง wordpress จากที่นี่เช่นกัน

เปรียบเทียบกัน เมื่อก่อนตอนที่อยู่ Shared-host ก็ค่อนข้างสบายอยากจะเพิ่มเว็บไซต์, เพิ่มซับโดเมน สร้างอีเมล์ ก็แค่เข้า DirectAdmin เข้าไปจัดการผ่านหน้าเว็บไซต์ พอย้ายมาทำทุกอย่างเองก็ต้องเหนื่อยต้องยุ่งยากเป็นธรรมดา ยิ่งตอนเซ็ทเมล์ให้ตัวโฮสต์ส่งออก-รับเข้าได้นี่ ก็กินเวลาอยู่หลายวัน แต่มันก็เป็นผลดีที่เราสามารถขยับขยายทำอะไรได้มากกว่าเมื่อก่อน อย่างเช่นเมื่อก่อนอยากลองใช้ nginx แทน apache มานานแล้ว ก็ได้ลองทำเองเสียที

ตอนนี้ Jir4yu.me เองก็รันอยู่บน droplet ของ DigitalOcean ที่ Singapore Datacenter เรียบร้อย ทดสอบความเร็วก็เป็นที่น่าพอใจอยู่พอสมควร จากเมื่อก่อนอยู่กับ hostneverdie ping ได้ประมาณ 20-40 พอย้ายไปที่ DigitalOcean ก็ ping ได้ประมาณ 80-140 ถือว่ารับได้ นอกนั้นก็แค่ทำ cache ช่วยโหลดหน้าเว็บไซต์ สุดท้ายก็เรียกหน้าเว็บได้ใกล้เคียงกับตอนอยู่ไทย แต่ได้ผลดีที่ลูกค้าต่างประเทศสามารถเรียกหน้าเว็บไซต์เราได้เร็วกว่าด้วย

droplet-DigitalOcean

สุดท้ายแล้ว ค่อนข้างประทับใจกับ DigitalOcean ครับ ด้วยความที่เราสามารถเป็นเจ้าของ VPS ด้วยราคาที่เราสามารถจับจ่ายกันได้ แล้วก็รู้สึกว่าแฟร์กับเราด้วย คือถ้าใช้ก็เสียเงิน ถ้าปิดก็ไม่หัก UX-UI ของตัวเว็บไซต์เองก็ทำออกมาได้ดี มี Community ที่ช่วยได้เยอะ ยิ่งตอนหลังที่มาเปิด datacenter ที่ Singapore ด้วยแล้วนี่ happy มากๆ ยังไงก็ลองเติมเงินเข้าไปลองเล่นกันก่อนสัก 5$ แล้วใส่ Promo Code ที่ชื่อ “SSD2014” จะได้ credit เพิ่มมาอีก 10$ ฟรีๆ ถ้าอยากจะลองเล่นๆ ผมบอกได้เลยว่าคุ้มกับความรู้ที่ได้กลับมาครับ

รายละเอียดเว็บไซต์ DigitalOcean

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ