แรงบันดาลใจ .. อยู่ที่ไหน

” เรียนจบแล้วไปทำอะไรต่อล่ะ ” นี่คือคำถามสุดคลาสสิคที่ผมได้ยินบ่อยเหลือเกินในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่ถึง 2 อาทิตย์นับตั้งแต่วันนี้ของการใช้ชีวิตนักศึกษา คำถามมันไม่ใช่ปัญหาหรอกครับ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาเลยคือคำตอบนั่นหน่ะแหละ ..

ผมมีปัญหากับตัวเองอย่างนึง และ คิดว่ามันคงเป็นปัญหาสำหรับผมไปอีกพักใหญ่ๆ ” ผมชอบอะไรกันแน่ ” ” ผมต้องการอะไร ” ” ผมรู้อะไร แล้วอยากจะได้ อยากจะทำอะไร ” ” อยากดำเนินชีวิตยังไง แบบแผนอนาคตคืออะไร ” ทุกสิ่งเหล่านี้มันมาจากสิ่งๆเดียวที่ผมมีอยู่ในหัวสมอง .. แท้จริงแล้ว ผมค้นพบตัวเองแล้วหรือยัง ? อะไรคือเป้าหมาย อะไรคือความสำเร็จ แล้วอะไร .. คือแรงผลักดันให้อยากใช้ชีวิตเพื่อตามหาเป้าหมาย จุดหมายนั้น

หอศิลป์กรุงเทพ

เมื่อวันก่อน ผมได้เข้าสัมมนาในเรื่อง วัยรุ่นกับการออมเงินเพื่ออนาคต ได้ฟังอะไรหลายต่อหลายอย่าง รวมทั้งให้เขียนแผนการดำเนินชีวิตอย่างละเอียดตั้งแต่เรียนจบเป็นต้นไป ผมเห็นบางคนวาดแผนอนาคตไว้สวยหรู และ เป็นระเบียบมาก ถึงขั้นที่ว่า กี่ปีๆ ได้เงินเดือนเท่านี้ ทำอะไรเท่านี้ อายุเท่านี้ซื้อบ้าน มีรถ แต่งงาน เก็บเงิน แล้วของผมล่ะ มีเพียง ค้นหาตัวเอง ทำงาน สั่งสมประสบการณ์ บวช แค่นั้นเองหรอ?

หอศิลป์กรุงเทพ 2

แม้แต่ตัวเองยังตอบคำถามตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำว่าอยากจะเรียนต่อ หรือ ทำงานก่อนกันแน่ แค่เรื่องง่ายๆในการตัดสินใจแค่นี้ยังตอบตัวเองไม่ได้ แล้วจะให้วางแผน 5 ปี 10 ปี ได้ยังไง อะไรมันจะแน่นอนอย่างนั้นเชียวหรือ ? ผมมองว่ามันเหมือนกับการซื้อรถคันแรก ผมเชื่อว่าใครต่อใครอาจจะคิดกันเล่นๆ เดือนนี้ผ่อนเท่านี้ๆ เดือนหน้าเอารถไปทำอย่างงั้นอย่างงี้ จนไม่ได้คำนึงถึงค่าบำรุงบ้าง ค่าจิปาถะทั่วไปบ้าง รถหายบ้าง โดนชนบ้าง ก็เหมือนกัน.. ผมไม่อยากแผนชีวิตตามกรอบอย่างนั้น พรุ่งนี้ผมอาจเป็นอะไรเข้าโรงพยาบาลก็ได้ ฟังผลตรวจเจอโรคอะไรเสียกำลังใจไม่อยากทำอะไรเลยก็ได้

หอศิลป์กรุงเทพ 3

ผมอยากออกไปตามหา.. หาอะไรบางอย่างที่เป็นแรงผลักดัน อะไรบางอย่างที่สนับสนุนแนวคิดพื้นฐานส่วนตัว ผมไม่เชื่อว่าความสุข และ คุณภาพชีวิต แปรผกผันกับเงินเดือน หรือ ผลตอบแทนที่ได้รับ ผมอยากพิสูจน์ตัวเองว่าผมคิดแบบนั้นได้จริง อยากไปทำงานองค์กรอะไรก็ได้ที่ไม่แสวงหาผลกำไร ออกไปทำอะไรเพื่อยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ.. ซื้อคนด้วยเงิน ก็ได้เงิน ซื้อคนด้วยใจ ก็ได้ใจ.. ไม่อยากจะสมมุติเรื่องบางเรื่องที่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวเสียเท่าไหร่

ถ้าคุณทำงานกลางคืน ค่าตอบแทนสูง แล้วบอกใครต่อใครไม่ได้ว่างานอะไร โกหกหลอกลวงเขาที่คุณรักไปทุกวันๆ เพื่อให้เขาสบายใจ .. กับ คนที่ทำงานขายของธรรมดาๆ ค่าตอบแทนต่ำกว่ามาก แต่บอกใครต่อใครได้ ให้ความจริงใจแก่เขาได้ … ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกแบบหลัง

บางทีมนุษย์ก็แปลก .. คุณรักเขา.. คุณโกหกเขา

การโกหกมักเกิดจากการกลัว การต้องการสิ่งใดสิ่งหนึ่งจากอะไรบางอย่าง หรือ ใครบางคน แต่กลับกลัวว่าจะไม่ได้สิ่งนั้น บอกไปแล้วกลัวไม่ได้อย่างที่ต้องการ ก็เลยต้องโกหก ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าหากใครสักคนมารู้คำตอบด้วยตัวเขาเอง, เรื่องมันจะแย่ไปมากกว่านี้

หอศิลป์กรุงเทพ 4

แรงบันดาลใจของผมอาจจะเป็นการท่องเที่ยว การใช้ชีวิต การหายไปใช้เวลาอยู่กับตัวเอง การพักผ่อน การคิดอะไรเงียบๆ การดื่มกาแฟในยามบ่ายแก่ๆ การนั่งมองรถแล่นผ่านไปมา มองการสัญจรของผู้คน ความคิดของใครต่อใครบนเฟซบุ๊ค การไม่รับรู้อะไรใดๆ หรือแม้กระทั่งความเจ็บปวดทางความรู้สึกจากอะไรบางอย่าง.. วันนี้ผมได้รู้จักผู้หญิงคนนึง อายุน่าจะน้อยกว่าแม่ของผมสัก 10 ปีเห็นจะได้ เธอแต่งงานมาแล้ว 17 ปี มีลูก 3 คน เธอเล่าบางสิ่งบางอย่างให้ผมฟังอย่างตั้งใจได้ความประมาณว่า

” เมื่อตอนฉันเป็นเด็ก ฉันตั้งความสำเร็จในชีวิตกับตัวเองว่าอยากจะได้เงินเยอะๆ ทำงานได้ผลตอบแทนสูง มีชีวิตสบายๆ แต่เมื่อพอฉันโตขึ้น ฉันแต่งงาน ฉันมีลูก ความสำเร็จของฉันก็เปลี่ยนไป ฉันไม่ได้ต้องการเงิน ไม่ได้ต้องการผลตอบแทนสูง ฉันแค่อยากทำเพื่อครอบครัว เพื่อสามี เพื่อลูก เพื่ออนาคตของลูก ทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดี ในคราวเดียวกัน ก็เป็นแม่ที่ดี นี่แหละคือความสำเร็จของฉัน ”

หอศิลป์กรุงเทพ 5หอศิลป์กรุงเทพ 6กาแฟดริป

คุณน้าคนนั้นยิ้มให้กับผมเบาๆ แล้วถามผมกลับว่า ” แล้วของคุณล่ะ อะไรคือความสำเร็จที่คุณตั้งเป้าหมายไว้ ? ”

” ค้นหาตัวเองครับ ” ก็อย่างว่า ..เด็กก็ยังเป็นเด็กวันยังค่ำ

Jir4yu.

แชร์บทความนี้

    แสดงความเห็นของคุณที่นี่

    กรุณากรอกอีเมล์ของคุณก่อนส่งข้อมูล เพื่อรับการแจ้งเตือนเมื่อมีคนมาตอบข้อความของคุณ